220 จำนวนผู้เข้าชม |
#เรื่องเล่าจากผู้เดินทาง #Eastview : ทรรศนะบูรพา Ep.3
เมื่อพูดถึงประเทศอินเดีย...
หลายคนอาจนึกถึงภาพในสมองที่เคยรู้จักไม่กี่อย่าง เช่น ปัญหาความเหลื่อมล้ำ การแบ่งชนชั้น ความยากจน ปัญหาการข่มขืน หรือแม้แต่การตีตราว่าเป็นประเทศที่สกปรก แต่มุมมองนี้ อาจดูตื้นเขินจนเกินไปที่จะทำความรู้จักกับอินเดียให้ดีพอ และ ฉันเองก็เคยคิดตื้นเขินแบบนั้น อาจจะเพราะว่าเรารับสารเพียงไม่กี่ด้านที่นำเสนอผ่านสื่อตะวันตกหรือสื่อไทยเองที่มองในมุมเดิมๆของอินเดีย แต่เมื่อมาทำความรู้จักประเทศอินเดียนี้จริงๆ กลับรู้สึกทึ่งอย่างบอกไม่ถูก
วินาทีแรก ที่เดินทางมาถึงเมืองโกกาตา ประเทศอินเดีย อดีตเมืองหลวงของที่นี่ มันรู้สึกตื่นตาตื่นใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะแค่สนามบินก็ดูทันสมัย ไม่ต้องเดินไกลแถมยังสะอาดเป็นระเบียบ แต่นั่นก็เป็นเพียงเปลือกนอกที่เราสัมผัสได้ด้วยสายตา ไม่ใช่ด้วยหัวใจ...
วันรุ่งขึ้นเราทั้ง 3 คน เดินทางไปยังสลัมย่านอุตสาหกรรมของเมืองโกกาตา อารมณ์ถ้าเทียบแล้วก็คงคล้ายๆ กับคลองเตยบ้านเรา แต่แน่นอนว่าความเป็นอยู่ของเด็กๆที่นี่อาจจะสาหัสกว่าบ้านเราหลายเท่านัก เรามาติดตามจิตอาสาคนหนึ่งที่เราตั้งชื่อไทยให้เขาว่า ประทีป ชายสูงอายุที่มีพรสวรรค์ด้านดนตรีและการแสดง ภาพแรกที่พวกเราเห็นคือรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของชายคนนี้ที่ได้อยู่กับเด็กๆในสลัม การเล่นดนตรีพร้อมกับเพลงที่เขาแต่งโดยใช้ชื่อเพลงตามหมู่บ้านสลัมแห่งนี้ มักจะสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับเด็กๆท่ามกลางความขาดแคลนที่มีอยู่ในสลัม
ประทีป ผันตัวเองจากการเป็นวิศวกร อาชีพการงานดี แต่มาทำงานเพื่อสังคมที่มากกว่านิยามของคำว่า อาสาสมัคร บทสนทนาแรกที่ฉันพอจะจับใจความได้ที่เขาบอกกับฉันว่า คุณโชคดีมากที่มาเจอกันในวันนี้ วันที่พวกเขากำลังมีความสุขอยู่กับเด็กๆในสลัมแห่งนี้พอดี และฉันก็คิดในใจว่า ใช่เราโชคดีจริงๆ ที่เราได้มาเจอกันวันนี้ เราเก็บภาพความสุขของ ประทีป กับ เด็กๆหลายสิบคนในสลัมไปสักพัก แต่ดูเหมือนวันนี้ฟ้าฝนอาจจะไม่เป็นใจให้เราได้ถ่ายทำสารคดีเรื่องนี้ อย่างราบรื่นเท่าไหร่นัก ฝนตกหนักมาก เด็กบางคนรีบวิ่งกลับบ้าน บางคนก็ยังอยู่กับพวกเราต่อพร้อมกับเสียงร้องเพลงและเสียงดนตรีที่แข่งกับเสียงฝนที่ตกกระทบหลังคา พร้อมกับพลังของ ประทีป ที่ยังส่งต่อความสุขให้เด็กๆ อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย คงเหมือนกับชื่อของเขาล่ะมั้ง ที่มีความหมายถึงแสงสว่าง และวันนี้ เขาก็เป็นแสงสว่างให้กับเด็กๆ ให้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขในแบบฉบับของพวกเขาเอง
แต่ในบ้านซอมซ่อหลังเล็กๆ ที่พวกเราและเด็กๆหลายสิบคนอัดกันอยู่ในนั้น ฉันเองนั่งบันทึกภาพอยู่ตรงจุดที่หลังคารั่ว ฝนตกใส่หลังอยู่สักพัก แต่ก็ทนเพราะเราขยับไม่ได้มากเพราะมุมกล้องมันไม่ได้จริงๆ ซึ่งไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรกับแค่ฝนรั่วใส่หลัง แต่เมื่อนั่งถ่ายทำ เก็บภาพเด็กๆไปสักพัก ก็รู้สึกแปลกใจที่ฝนที่รั่วใส่หลังนั้นหายไป ทั้งๆที่ข้างนอกฝนก็ยังตกหนักและไม่มีทีท่าว่าจะเบาลงเลย จึงหันไปมองด้านหลัง เงยหน้ามองตามสายฝนที่เคยรั่วใส่หลัง กลับทำให้ฉันรู้สึกซึ้งใจและประทับใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะมีมือน้อยๆ ของเด็กคนหนึ่ง เอามารองน้ำฝนเอาไว้ ไม่ให้ฝนรั่วใส่หลัง
ความรู้สึกตอนนั้นทั้งเอ็นดู ทั้งประทับใจในความมีน้ำใจของเด็กน้อยคนนั้นเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าจะได้เจอเหตุการณ์ที่น่าประทับใจเช่นนี้ในชีวิตและเกิดขึ้นในสถานที่ ที่เราเรียกกันว่า "สลัม"
นี่แหละมั้ง คือความน่ารัก ใสบริสุทธิ์ และคุณค่าด้านจิตใจ ที่เราอาจจะไม่เจอมันได้ง่ายๆ ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับการแข่งขันกันที่วัตถุและเปลือกนอก... กับเหตุการณ์นี้ ทำให้รู้จักประเทศอินเดียในมุมใหม่ที่ไม่ตื้นเขินและตัดสินจากภายนอกเหมือนที่เคยเป็นมา แต่กลับเห็นถึงคุณค่าในความเป็นมนุษย์ที่ไม่ว่าจะเกิดมาในสังคม ครอบครัว หรือ ฐานะแบบไหน ถ้าเรามองว่าทุกคนเป็นมนุษย์เท่าๆกัน การช่วยเหลือ เอื้ออาทรกัน ก็จะเกิดขึ้นในทุกสังคม ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ การศึกษาระดับใด หรือยากดีมีจนแค่ไหนก็ตาม
ขอบคุณสายฝนและหลังคารั่วๆในบ้านหลังเล็กของสลัมอินเดียในวันนั้น ที่ทำให้ฉันรู้จักเพื่อนมนุษย์คนใหม่ ที่ต้องสัมผัสด้วยหัวใจ ไม่ใช่แค่สายตา...
เขียนโดย
Siriya Thongsomboon
ติดตาม Ep.3 "Global Citizen" วันพุธนี้ (1 ส.ค. 61) เวลา 22.00 น. ทาง #ThaiPBS #ช่องหมายเลข3
www.thaipbs.or.th/EastView